ในปัจจุบันการใช้งานอินเทอร์เน็ตนั้น ช่วยให้ชีวิตของผู้คนสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ติดต่อสื่อสารผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ รวมไปถึงการทำธุรกรรมต่างๆ อาจทำให้ทุกการเชื่อมต่อผู้ใช้ ได้ทิ้งรายละเอียดข้อมูลสำคัญๆ เอาไว้โยแบบที่ไม่รู้ตัว เหมือนดังข่าวเรื่องเฟสบุ๊ค โดนรายงานว่าให้สิทธิพิเศษในการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ ทำให้เห็นข้อมูลส่วนตัวของเราอยู่บนอินเทอร์เน็ต และสื่อโซเชียลเป็นจำนวนมาก
และข้อมูลเหล่านี้อาจจะกำลังถูกบุคคลที่สาม นำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง เพื่อนำมาหากำไรให้กับตนเอง วันนี้เราก็เลยได้มีวิธี ที่จะช่วยลดการทิ้งข้อมูลสำคัญไว้บนโลกออนไลน์ ซึ่งผู้อ่านก็สามารถทำตามได้ง่ายๆ ด้วยตนเองดังนี้
1.ให้ยกเลิกหรือปิดบัญชีออนไลน์ต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้แล้ว ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรก เพราะการปล่อยบัญชีออนไลน์ที่ไม่ได้ใช้ อย่างไม่สนใจทิ้งไว้นั้น อาจทิ้งร่องรอยของรายละเอียดบัญชีเอาไว้ด้วย
2.ลบข้อมูลออกจากเว็บไซต์ที่ทำการรวบรวมข้อมูลต่างๆ โดยการเข้าไปในแต่ละเว็บไซต์เหล่านั้น เพื่อจัดการกับข้อมูลในแต่ละส่วน หรือใช้บริการที่จะช่วยในการลบข้อมูลบัญชีทั้งหมด
3.ปิดการใช้งานในบัญชีอีเมลเก่า ให้คุณลองนึกว่าเคยได้สร้างบัญชีกี่ครั้ง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในกรณีที่มีอีเมลเก่าๆ ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว และคิดว่าจะไม่ได้นำกลับมาใช้งานอีก เราขอแนะนำว่าควรทำการยกเลิกอีเมลนั้นเสีย
4.ตรวจสอบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของ Account ต่างๆ ในสื่อสังคมออนไลน์ การกำหนดว่าให้คนอื่นๆ ที่ไม่ใช่เพื่อนเห็นข้อมูลส่วนตัวอะไรได้บ้าง ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ เพราะการที่ได้ใช้สิทธิสาธารณะ ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว อาจก่อให้เกิดการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลได้เช่นกัน
5.ใช้โปรแกรมเสริมหรือปลั๊กอินสำหรับ Browser โปรแกรมเสริมหรือปล๊กอินสามารถช่วยให้ Browser จากการเก็บข้อมูลของเว็บไซต์ ที่เราเข้าใช้งานต่างๆ ซึ่งปัจจุบันก็มีโปรแกรมเสริมจำนวนมาก ที่มีบริการให้ฟรีอีกด้วย
6.ร้องขอกับทางเว็บไซต์โดยตรง เพื่อให้ทำการลบรายละเอียดข้อมูลของผู้ใช้ จากฐานข้อมูลหรือใช้บริการ JustDeleteMe ที่สามารถให้บริการช่วยเหลือ ในการลบบัญชีจากเว็บไซต์ต่างๆได้
7.ใช้สิทธิขอลบตัวเองออกจากผลการค้นหาของ Search Engine ต่างๆ สิทธิที่จะถูกลืม เป็นสิทธิทางกฏหมายด้านการป้องกันข้อมูล ที่สามารถร้องขอให้มีการลบข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับตัวเอง ที่ได้ถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ ขณะที่ยังเป็นผู้เยาว์ หรือข้อมูลที่เก่าและล้าสมัยไปแล้ว ออกจากอินเทอร์เน็ตได้ด้วย
8.การใช้ข้อมูลปลอมในการกรอกรายละเอียด หากผู้ใช้งานไม่อยากที่จะทิ้งข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ของตนเองไว้ ก็อาจจะป้องกันข้อมูลโดยการสร้างข้อมูลปลอมขึ้นมา อาทิเช่น ที่อยู่ อีเมล หรือวันเกิดปลอม สำหรับบัญชีรายชื่อที่ไม่จำเป็น
9.อย่าคลิกแบบสอบถามที่ดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือ เพราะ Clickbait คือการใช้คำหรือรูปภาพที่ชวนให้เราสงสัยใคร่รู้ หรือจงใจให้ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วไป คลิกเข้าไปเพื่อตอบแบบสอบถามต่างๆ โดยที่ผู้ใช้งานก็ควรต้องใช้วิจารณญาณ ก่อนที่จะทำการคลิกเข้าไปยังลิงก์เว็บไซต์ อย่าหลงเชื่อป้อนข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญของคุณลงไปเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นการแลกข้อมูลส่วนตัวนี้ จะกลายเป็นข้อมูลสู่สาธารณะให้แฮกเกอร์นำข้อมูลของเราไปใช้ได้